วิธีทำพุดดิ้งสาคูมะพร้าวไทยแบบต้นตำรับ

เมื่อชาวโปรตุเกสได้แนะนำการใช้ไข่ในเมนูของหวาน ไข่ก็กลายเป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่สำคัญของขนมไทย ซึ่งส่วนใหญ่มักใช้วัตถุดิบอย่างน้ำตาลปี๊บ มะพร้าว แป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียว ถั่วแดง เม็ดบัว และหัวมันสำปะหลัง

สิ่งที่ทำให้ขนมไทยมีเอกลักษณ์

เอกลักษณ์ของขนมไทยอยู่ที่กลิ่นหอมนั่นเอง! คนไทยมักแช่ดอกมะลิและดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมอื่น ๆ ไว้ในน้ำที่ใช้และนำดอกไม้เหล่านี้ไปใช้ทำน้ำเชื่อมด้วย โดยวางดอกไม้ไว้ข้าง ๆ ขนมหวาน หรือกะทิในภาชนะปิดมิดชิด แล้วทิ้งไว้ข้ามคืนและบางครั้งก็ใช้การเผาเทียนหอมเข้ามาช่วยเพิ่มกลิ่นให้หอมกรุ่นติดทนนานด้วย

ขอแนะขนมหวานที่อร่อยที่สุดอย่างหนึ่ง : พุดดิ้งสาคูมะพร้าวแบบไทย

คุณอยากทำพุดดิ้งสาคูมะพร้าวที่บ้านเองมั้ยล่ะ สูตรนี้ทั้งรวดเร็ว ไม่ซับซ้อน และยังทำง่ายอีกด้วย นอกจากรสชาติสุดอร่อยแล้ว ขนมหวานสูตรนี้ยังดีต่อสุขภาพคุณ ปราศจากกลูเตน และเหมาะสำหรับชาววีแกนอีกด้วย

วัตถุดิบสำหรับพุดดิ้งสาคูมะพร้าว
ไข่มุกมันสำปะหลัง (หรือ) เม็ดสาคู (1/2 ถ้วย)
น้ำ (3 ถ้วย)
เกลือ (1/8 ช้อนชา)
กะทิ (13.5 ออนซ์)
มะม่วงสุก

สามารถราดเมเปิ้ลไซรัป หรือไซรัปชนิดอื่น ๆ บนหน้าขนมก่อนเสิร์ฟได้ด้วย

โปรดอ่านและปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้ แล้วคุณจะได้ขนมหวานสุดอร่อยและชื่นใจอย่างแน่นอน ก่อนอื่นต้มเม็ดสาคูในน้ำผสมเกลือเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงบนโดยใช้ไฟปานกลาง หมั่นคนเป็นพัก ๆ พอเสร็จแล้ว ยกออกจากเตา พักไว้ประมาณ 5 นาที แล้วล้างด้วยน้ำเย็นจนเม็ดสาคูพองได้ที่ หลังจากนั้นจึงผสมกะทิเย็น ๆ เม็ดสาคูที่สุกแล้ว นมสด น้ำตาล และมะม่วงหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ

จากนั้นจึงใช้พลาสติกแร็ปและนำไปแช่ไว้ในตู้เย็นอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง เพียงเท่านี้คุณก็จะได้พุดดิ้งสาคูมะพร้าวแบบไทย ๆ ที่มีรสชาติหอมกลมกล่อม ไม่หวานเกินไป รับรองว่าใครได้ชิมแล้วต้องติดใจอย่างแน่นอน

พุดดิ้งนี้จะค่อนข้างเหลวหน่อย คุณต้องหมั่นคนเพื่อไม่ให้เม็ดสาคูจับตัวกัน สามารถเติมไซรัปซัก 1 ช้อนชาสำหรับแต่ละถ้วยเพื่อเพิ่มความหวานได้

ทิปสำหรับพุดดิ้งสาคูมะพร้าวสุดอร่อย

ดูประเภทเม็ดสาคูก่อนซื้อ ผลิตภัณฑ์นี้หาได้ตามชั้นวัตถุดิบทำขนมของซูเปอร์มาร์เก็ตส่วนใหญ่ คุณสามารถใช้เม็ดไข่มุกมันสำปะหลังแทนเม็ดสาคูก็ได้ อย่าใช้เม็ดที่ละเอียดมากจนเหมือนแป้งสาคูร่วน ๆ แต่ยิ่งเม็ดมีขนาดใหญ่เท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องใช้น้ำมากขึ้นและต้องต้มนานขึ้นเท่านั้นด้วย

เลือกใช้กะทิที่ไม่ข้นมาก คุณสามารถดูว่ากะทินั้นข้นหรือไม่จากการเขย่า หากคุณได้ยินเสียงน้ำกะทิกระเด็นกระดอนอยู่ในกล่อง แสดงว่ากะทินั้นใช้ได้ หากต้องการทำของหวานที่เบาท้องมากขึ้นสามารถเลือกใช้กะทิที่มีส่วนผสมเข้มข้นน้อยลงได้

อย่างที่เราทราบกันดีว่าขนมไทยมักใช้กะทิและน้ำตาลเป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งอาจทำให้บางคนรู้สึกว่าทานแล้วเลี่ยนไปหน่อย ในกรณีนี้คุณอาจลองทานขนมหวานไทยที่ใส่ผลไม้ เฉาก๊วย หรือใส่น้ำแข็งเยอะ ๆ เพื่อตัดกับความหวานเข้มข้นของกะทิก็ได้